การเป็นเจ้าของกิจการ ทำให้เราสามารถกำหนดชีวิตตัวเองได้อย่างอิสระ แต่ก็ทำให้ขาดสิทธิประโยชน์หลายอย่างที่มีในมนุษย์เงินเดือนหรือข้าราชการ อีกทั้งยังมีความไม่แน่นอนในเรื่องการเงินอีกด้วย
ทั้งหมดนี้ ทำให้ในโลกธุรกิจ ที่มีการแข่งขันสูง เจ้าของกิจการจึงควรพึงระวัง 5 หลุมพรางเหล่านี้ และหาทางหลีกเลี่ยงที่จะเก้าข้ามหลุมพวกนี้ไปให้ได้ค่ะ
หลุมพรางที่ 1: “การวางแผนเกษียณเป็นเรื่องไกลตัว”
หากพูดถึงเรื่องการเตรียมตัวเกษียณ เจ้าของกิจการที่เพิ่งเริ่มดำเนินธุรกิจ และมุ่งมั่นให้ประสบความสำเร็จในแวดวง จึงไม่คิดสนใจที่จะวางแผนเกษียณกันนัก เพราะอาจคิดว่ายังอีกนาน รอให้การบริหารบริษัทจนมีผลกำไรสูงๆ ก็ถือเป็นการเตรียมเกษียณไปในตัว
หลุมพรางที่ 2: “การทำธุรกิจให้โตก้าวกระโดต้องใช้เงินลงทุนสูง”
เจ้าของกิจการส่วนใหญ่ มักคิดว่าการลงทุนสูง จะนำมาซึ่งผลตอบแทนสูงด้วย ทำให้เงินที่ลงทุนซึ่งมักจะมาจากเงินส่วนตัว อาจสูญไปกับการทำธุรกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำธุรกิจที่เราไม่มีความชำนาญ และไม่มีการวางแผนอย่างดี การทำธุรกจิล้มเหลวจะกระทบต่อแผนการเตรียมเงินเกษียณอย่างแน่นอนค่ะ เพราะเงินที่เก็บมาทั้งชีวิต อาจจะหายวับไปกับตาแค่เพราะธุรกิจล้มเหลวก็เป็รได้ค่ะ
หลุมพรางที่ 3: “นักธุรกิจไม่ต้องเตรียมเงินบำนาญ”
เพราะตั้งความหวังไว้ในการทำธุรกิจของตัวเองสูง และคาดว่าจะใช้เงินจากธุรกิจส่วนตัวมาเป็นเงินหลังเกษียณ จึงมักจะไม่สนใจเรื่องการเตรียมเงินบำนาญไว้ใช้ยามเกษียณ
ทั้งๆที่เราควรที่จะสร้างบำเหน็จบำนาญของตัวเองได้ล่วงหน้า โดยอาจใช้วิธีแบ่งเงินมาเพื่อสร้างกองทุนสำหรับพนักงานและเจ้าของกิจการ หรือทำประกันชีวิตแบบบำนาญก็ได้
โดยอาจตัดเงินมาจากกำไรของบริษัท ก็กันเงินส่วนนี้เข้าเป็นเงินเพื่อเตรียมเกษียณเรื่อยๆ ไม่ปะปนไปกับเงินที่ใช้ในธุรกิจ แบบนี้เมื่อเกษียณไป ก็จะมีเงินก้อนโตไว้ใช้ได้สบายๆค่ะ
หลุมพรางที่ 4 “ความสำเร็จทางธุรกิจสำคัญที่สุด”
เมื่อทุกลมหายใจเข้าออกคือการทำงานเพื่อให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ จนทำให้คุณอาจละเลยการดูแลสุขภาพ
ซึ่งหากมองให้ชัดๆ จะเห็นได้ว่า สุขภาพมีความสำคัญต่อการวางแผนการเงินเพื่อเกษียณมาก เพราะหากมีปัญหาสุขภาพย่อมส่งผลกระทบต่อกระแสการเงินของตัวเอง และอาจทำให้กระทบประสิทธิภาพในการทำงานต่อบริษัทด้วย
ดังนั้น ถ้าไม่อยากลำบากหลังเกษียณ ก็ควรให้ความสำคัญกับสุขภาพเป็นอันดับต้นๆ ด้วยการดูแลสุขภาพตนเองให้ดีตัวแต่เนิ่นๆนะคะ
หลุมพรางที่ 5: “เก็บเบี้ยประกันไว้ลงทุนและจ่ายเองเมื่อป่วย”
เจ้าของธุรกิจควรให้ความสำคัญกับการรักษาสุขภาพประกอบกับการทำประกันสุขภาพด้วย เพื่อให้มีความคุ้มครองเรื่องค่าใช้จ่ายยามมีปัญหาเจ็บป่วยรุนแรง หรือเรื้อรัง
มาดามแนะนำว่า ไม่ควรเก็บเงินที่จะจ่ายเบี้ยประกันไว้ลงทุน และจ่ายเองเมื่อป่วย เพราะเราจะไม่รู้ว่าค่ารักษาเมื่อป่วยจริงจะเป็นจำนวนเงินมากน้อยเท่าไหร่
แต่!! เรารู้ล่วงหน้าได้ค่ะ ว่าเบี้ยประกันสุขภาพที่เราต้องจ่ายแต่ละปีนั้น เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ การทำประกันสุขภาพเลยถือเป็นการกันเงินจำนวนที่แน่นอนไว้รองรับค่าใช้จ่ายที่อาจบานปลายเมื่อเจ็บป่วยหนัก และไม่ต้องกังวลเลยว่าหลังเกษียณไปจะมีเงินไม่พอใช้จ่าย
เมื่อเราตระหนักถึงหลุมพรางที่รอเราอยู่ข้างหน้าแล้ว ก็ควรก็เตรียมกระโดดข้ามหลุมเหล่านี้ไปให้ได้ค่ะ จะได้มีเงินสำหรับใช้ยามเกษียณอย่างมีความสุขกันนะคะ
___________
สนใจวางแผนเกษียณ หรือทำประกันสุขภาพให้ตัวเองหรือคุณพ่อคุณแม่ รีบติดต่อมาดามมาได้เลยค่ะ
เช็คเบี้ยให้ไว ข้อมูลแน่น ต้องมาดามประกันเท่านั้นค่ะ