การออมเงิน คือ อีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยควบคุมการใช้จ่ายของเราให้มีระเบียบแบบแผนมากขึ้นค่ะ แถมยังช่วยให้เรามีเงินเก็บที่สามารถนำมาใช้จ่ายในยามฉุกเฉินได้อีกด้วยนะคะ
การออมเงินไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ แต่จะออมเท่าไหร่กันนะ ถึงจะพอดีและมีเงินพอให้เราใช้ชีวิตได้แบบสบายๆ ทั้งในปัจจุบันและหลังเกษียณ
สิ่งที่เราจะใช้แบ่งแนวทางการวางแผนเก็บเงินให้มีประสิทธิภาพได้ นั่นก็วิธีการเก็บออมแบบแบ่งตามช่วงอายุ หรือวัยของแต่ละคนนั้นเองค่ะ
คนแต่ละวัยก็มีความสามารถในการหาเงิน และมีสัดส่วนการออมที่แตกต่างกันค่ะ ถ้าให้คนทุกช่วงวัยใช้เทคนิควางแผนการออมเงินแบบเดียวกันหมดก็อาจจะไม่เวิร์คซักเท่าไหร่ใช่มั้ยคะ
ทางที่ดี มาดามแนะนำว่าคนแต่ละวัย ควรจะมีวิธีการออมเงินให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ และเป้าหมายในการใช้เงินที่แตกต่างกันค่ะ โดยมาดามได้ลองแบ่งช่วงอายุคร่าว ๆ ตามนี้เลยค่ะ
วัยเรียน (อายุก่อน 20 ปี)
วัยเรียน เป็นวัยที่ไม่ค่อยมีรายจ่ายส่วนตัวซักเท่าไหร่ค่ะ เพราะค่าใช้จ่ายส่วนใหญ่ก็มีผู้ปกครองคอยดูแลให้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นถ้าน้องๆวัยนี้ สามารถบริหารรายรับรายจ่ายได้ดี ก็จะมีเงินเก็บได้ตั้งแต่เด็กเลยค่ะ
อย่างเงินค่าขนมรายวันหรือรายเดือนที่ผู้ปกครองให้มา หรืออาจจะเป็นเงินที่ได้จากการทำงานพาร์ทไทม์เล็กๆ น้อยๆ เงินจำนวนนี้ถือเป็นรายรับที่แน่นอนค่ะ มาดามแนะนำว่าลองเมื่อได้เงินมาปุ๊บ จัดการแบ่งเงินส่วนหนึ่งออกมา แล้วเอาไปหยอดกระปุกหรือเก็บใส่บัญชีธนาคารไว้ ก็จะได้เงินออมนี้ไว้ใช้ในอนาคต โดยอาจเอาไปลงทุนเมื่อมีความรู้เรื่องการลงทุนต่างๆ ในช่วงวัยถัดไปก็ได้เช่นกันค่ะ
วัยเริ่มทำงาน (อายุ 20-30 ปี)
เข้าสู่วัยทำงาน รายได้หลักที่คนวัยนี้ได้ก็คือเงินเดือนนั่นเองค่ะ มาดามแนะนำให้ลองจัดแบ่งค่าใช้จ่ายแต่ละส่วนไว้ล่วงหน้า ตั้งลิมิตไว้เลยว่าเดือนนึงเราจะเก็บออมเท่าไหร่ แล้วนำยอดเงินที่เหลือมาแบ่งใช้จ่ายกับค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน
ไม่ว่าจะเป็น ค่าใช้จ่ายที่เป็น Fixed cost เช่นค่าห้องพัก ค่าบัตรรถไฟฟ้ารายเดือน ค่าผ่อนโน๊ตบุ๊ค หรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่เราจะรู้ล่วงหน้าว่าแต่ละเดือนจะต้องจ่ายเท่าไหร่ ทำให้เราสามารถจัดการแบ่งเงินส่วนนี้ไว้ก่อนได้
นอกจากนี้ยังมี Variable cost อื่นๆที่เกิดขึ้นทุกเดือน แต่มักจะไม่สามารถคาดเดาตัวเลขแบบเป๊ะๆได้ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอาหาร ค่ารักษาพยาบาล รวมถึงค่าช้อปปิ้งต่างๆด้วยค่ะ เพราะฉะนั้น เราควรคำนวนคร่าวๆว่าเราจะต้องใชช้จ่ายเงินในส่วนนี้เดือนละประมาณเท่าไหร่ และเตรียมแบ่งเงินไว้สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้มากกว่าที่ประมาณการณ์เอาไว้ เผื่อว่าเดือนไหนบังเอิญว่ายอดใช้จ่ายสูงกว่าที่คิดไว้ จะได้มีเงินเหลือจ่าย ส่วนเดือนไหนที่ใช้น้อย เงินเหลือ ก็สามารถกันออกมาเพื่อเก็บออมได้ค่ะ
วัยสร้างเนื้อสร้างตัว อายุ 31-40 ปี
วัยนี้อยู่ในช่วงกำลังก้าวหน้าในหน้าที่การงานเลยค่ะ พูดง่ายๆคือเติบโตจนเริ่มอยู่ตัวและมั่นคง ทำให้มีรายได้ที่สูงเพิ่มขึ้นตามไปด้วยค่ะ
ในวัยนี้ควรออมเงินไว้ให้มาก ๆ เน้นเป็นวัยสร้างฐานะ สร้างครอบครัว แต่ก็เป็นวัยที่มีค่าใช้จ่ายที่สูงตามไปด้วย อาจแต่งงาน มีลูก ย้ายบ้านใหม่ที่ใหญ่ขึ้น หรือพาครอบครัวไปท่องเที่ยว ทำให้การออมเงินอาจไม่ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ มาดามแนะนำว่าควรแบ่งเงินให้เป็นสัดส่วนไว้ทุกๆเดือน เงินที่แบ่งไว้ ก็สามารถนำไปฝลงทุน หรือเก็บไว้ในหลักทรัพย์ต่างๆ เช่น ซื้อหุ้นกู้ หรือกองทุนรวมตราสารหนี้เอาไว้ หรืออาจแบ่งบางส่วนไปลงทุนในหุ้นที่มีปันผลมากก็ได้เช่นกันค่ะ
วัยมั่นคง (อายุ 41-55 ปี)
อายุในวัยนี้ถือว่าเป็นช่วงอายุที่มีรายได้ค่อนข้างสูงและมั่นคงมากที่สุด แต่ในเวลาเดียวกันก็มีรายจ่ายมากตามไปด้วยค่ะ
อาจจะเพราะมีครอบครัวที่ต้องรับผิดชอบ ทั้งค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนลูก ค่ารักษาพยาบาลบิดามารดา หรือการซื้อรถใหม่บ้านใหม่ที่ใหญ่ขึ้น เพราะฉะนั้นเงินที่แบ่งเก็บไว้ ก็ควรนำไปลงุทนอะไรที่มีความเสี่ยงค่อนข้างต่ำค่ะ เพราะวัยนี้ถือว่าอายุเริ่มมาก และเข้าใกล้วัยเกษียณแล้ว ถ้าการลงทุนเสี่ยงเกินไป เกิดมีปัญหาขึ้นมา ก็อาจจะกระทบต่อเงินที่จะใช้ดูแลครอบครัวหรือกระทบเงินที่จำเป็นต้องใช้หลังเกษียณได้เลยค่ะ มาดามแนะนำว่าควรลงทุนแบบระมัดระวัง เช่น นำเงินออมส่วนใหญ่ไปฝากไว้กับธนาคาร ซื้อประกันบำนาญ หรือไปลงทุนในตราสารหนี้จะดีกว่าค่ะ
วัยเกษียณ (อายุ 55 ปี ขึ้นไป)
เป็นวัยที่เริ่มเกษียณตัวเองจากงานที่ทำอยู่ แล้วมาใช้ชีวิตเรียบง่าย สามารถทำอะไรที่อิสระและใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการได้ค่ะ มีเวลาพักผ่อนอย่างเต็มตัว อีกทั้งหนี้สินต่างๆ ที่มีก่อนหน้านี้ก็เริ่มเคลียร์หมด จึงทำให้คนในวัยนี้ไม่ค่อยมีภาระผูกมัดสักเท่าไหร่
หากวางแผนก่อนเข้าสู่วัยเกษียณมาตั้งแต่แรก ก็น่าจะมีรายได้จากเงินบำเหน็จบำนาญหรือเงินคืนของกรมธรรม์ประกันบำนาญที่ทำไว้ ควรแบ่งเงินส่วนนึงไปฝากธนาคารไว้กินดอกเบี้ย ซื้อพันธบัตรต่างๆ หรือสลากออมสินบ้างบางส่วน แต่ไม่ควรลงทุนกับธุรกิจที่มีความเสี่ยงสูง หรือเล่นหุ้นที่เสี่ยงเกินไปค่ะ เพราะถ้าหากไม่ประสบผลสำเร็จในการลงทุนล่ะก็ อาจจะยากที่จะฟื้นตัวอีกครั้งด้วยเหตุที่สูงอายุเกินไป มีเวลาในการเก็บออมน้อย ดังนั้นแนะนำเก็บเงินไว้กินดอก ก็จะปลอดภัยและเพียงพอต่อการใช้ชีวิตแล้วค่ะ
จะเห็นว่า ถ้าเราวางแผนแต่เนิ่นๆ รู้วิธีเก็บเงินและทำให้เงินงอกเงยในแต่ละช่วงอายุ ก็จะส่งผลให้เราใช้ชีวิตในแต่ละวัย และเข้าสู่วัยเกษียณอย่างมีความสุขได้
รู้แบบนี้แล้ว ไม่ว่าเราจะอยู่ในวัยไหนก็ควรเริ่มออมเงินในรูปแบบของตัวเองไว้ค่ะ ขอแค่เราได้เริ่มต้นเก็บออมและวางแผนการเงินไว้ให้ดี แค่นี้เราก็จะมีเงินออมไว้ใช้ในบั้นปลายชีวิตอย่างมีความสุขได้ค่ะ
______________
สนใจวางแผนออมเงิน ลงทุน เกษียณ หรือสร้างมรดกให้ลูกหลาน รีบติดต่อมาดามมาได้เลยค่ะ
เช็คเบี้ยให้ไว ข้อมูลแน่น ต้องมาดามประกันเท่านั้นค่ะ