เมื่อมาถึงจุดที่รายจ่ายเพิ่มขึ้น แต่รายรับดันลดลง วิธีแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่บางคนเลือก ก็คือรูดบัตรเครดิตไปก่อนใช่มั้ยคะ แต่ปัญหาก็คือเรารูดไปก่อนทั้งที่ยังมีเงินไม่พอไปจ่ายหนี้ จนเกิดความวิตกกังวล และกลุ้มใจกับปัญหาหนี้สินที่เพิ่มมากขึ้น รายจ่ายอื่นๆ ก็สะสมกันเข้ามาจนแม้จะจ่ายขั้นต่ำแล้วก็ยังตกอยู่ในภาวะ “หนี้ท่วมหัว” จะทำยังไงดีนะ?
วันนี้มาดามมาแนะนำวิธีการจัดการกับหนี้บัตรเครดิตค่ะ การจะแก้ปัญหาหนี้บัตรให้อยู่หมัด ต้องใช้วิธีที่เด็ดขาด ตามนี้เลยยย!!
1. หยุดรูดปรื้ดๆ แบบไม่ทันคิด
หยุดค่ะ!! พฤติกรรม รูดบัตรเครดิตแบบไม่ทันคิดหน้าคิดหลัง เอะอะก็รูด ของไม่จำเป็นก็รูดไปก่อน ทั้งๆที่ทุกสิ้นเดือนต้องมานั่งปวดหัวกับบิลค่าบัตรเครดิต
รูดแหลกแบบนี้ ถ้าไม่หยุด หนี้จะท่วมทับถมไปเรื่อยๆแบบไม่มีจุดสิ้นสุดแน่ค่ะ เพราะฉะนั้น ต้องตั้งสติค่ะ! แล้วหยุดรูดบัตรทันที ไม่ว่าจะเป็นบัตรไหนหรือค่าอะไร เพราะการติดหนี้บัตรนั้น ต้องเสียดอกเบี้ยค่อนข้างสูง ควรเคลียร์หนี้เก่าที่ค้างไว้ให้หมดก่อนจะดีกว่าค่ะ
2. จัดลำดับหนี้ให้ลงตัว
ขั้นต่อไปคือ ต้องสำรวจและจัดลำดับความสำคัญของหนี้บัตรเครดิตที่มีทั้งหมดค่ะ โดยดูที่บัตรเครดิตทีละใบ เรียงลำดับจากบัตรที่ดอกเบี้ยสูง ไล่ไปยังบัตรที่ดอกเบี้ยต่ำสุด แล้วเลือกจ่ายบัตรที่คิดดอกเบี้ยสูงก่อน เป็นการวางแผนจัดลำดับการชำระหนี้ที่จะทำให้หนี้งอกช้าลงได้ค่ะ
3. รีไฟแนนซ์บัตรเครดิต
คือการหาแหล่งเงินกู้ที่มีเงื่อนไขการกู้ยืมที่ดีกว่าค่ะ
โดยอาจจะได้ดอกเบี้ยที่ต่ำลง มีระยะเวลาผ่อนนานขึ้น หรือจำนวนเงินผ่อนหนี้ต่อเดือนลดลงก็ได้ค่ะ
และเมื่อเราได้แหล่งเงินกู้ใหม่ที่ดีกว่าหนี้ในบัตรแล้ว ก็ทำการรีไฟแนนซ์เพื่อลดจำนวนหนี้และภาระการผ่อนชำระให้เบาบางลงค่ะ
แต่ต้องระวัง อย่ากู้นอกระบบเด็ดขาดนะคะ เพราะนอกจากจะเป็นการสร้างหนี้ใหม่แล้ว ยังมีโอกาสสูงที่จะเจออัตราดอกเบี้ยมหาโหดกว่าบัตรเครดิตอีกด้วยค่ะ
4. หยุดจ่ายขั้นต่ำ
ขั้นตอนกำจัดหนี้บัตรเครดิตที่สำคัญไม่แพ้ขั้นตอนอื่นๆ เลยคือ หยุดจ่ายขั้นต่ำค่ะ เพราะเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ การจ่ายขั้นต่ำหมายถึงหนี้ที่ยังไม่จ่ายต้องเจอกับดอกเบี้ยบัตรที่เป็นอัตราที่ค่อนข้างสูง จะยิ่งทำให้หนีทับถมกันยิ่งกว่าเดิมค่ะ
5. หารายได้เสริม
ในขั้นตอนการแก้ปัญหาต่างๆข้างบนนี้ต้องทำควบคู่กับการหารายได้เสริมหรือช่องทางการเพิ่มรายได้อื่นๆ เพื่อนำรายได้ใหม่นี้ ทยอยชำระหนี้บัตรเครดิตที่ค้างไว้ ให้ลดลงเรื่อยๆค่ะ
6. ลดค่าใช้จ่าย
นอกจากนี้ มาดามแนะนำว่า เราควรพยายามลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลง และนำเงินที่เราและนำเงินที่เหลือเก็บจากส่วนนี้มาชำระหนี้ที่ค้างไว้ จะช่วยให้ทยอยชำระให้หมดเร็วขึ้น แต่อย่าลืม!! ต้องอดทนอย่าก่อหนี้ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาอีกนะคะ
7. ทยอยชำระหนี้
การผ่อนชำระหนี้ ควรจ่ายแบบเต็มที่ให้สุดๆ เท่าที่ไหวเลย ไม่ใช่จ่ายแค่พอดียอดของแต่ละเดือนค่ะ
เช่น ถ้าเดือนไหนเรามีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม หรือเดือนไหนจ่ายหนี้แล้วยังเหลือเงินอยู่อีก ให้รีบเอาเงินที่เหลือนี้ไปโปะหนี้บัตรที่เหลือทันทีค่ะ เพราะนอกจากจะช่วยลดต้นลดดอกแล้ว ยังช่วยให้เราหลุดจากการเป็นหนี้ได้เร็วขึ้นอีกด้วยค่ะ
8. วางแผนทางการเงินให้ดี
ขั้นตอนสุดท้ายคือการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาหนี้บัตรเครดิตซ้ำขึ้นอีกค่ะ เราจะต้องวางแผนการเงินให้ดี แยกส่วนของรายรับกับรายจ่ายออกมา
ฝั่งที่เป็นรายรับ ก็พยายามทำให้เพิ่มขึ้น เช่น หาทางลงทุน หารายได้เสริม แล้วแบ่งเงินที่ได้รับในแต่ละเดือนเป็นส่วนๆ ค่ะ ไม่ว่าจะเป็น เงินใช้จ่ายจำเป็น เงินใช้จ่ายฟุ่มเฟือย เงินออม หรือเงินสำรองฉุกเฉิน ก็ควรแบ่งให้เป็นสัดส่วนที่แน่นอนไว้ด้วยค่ะ
ส่วนฝั่งที่เป็นรายจ่าย จากที่เราเคยลิสต์รายการค่าใช้จ่ายมาแล้ว เราก็มาเรียงลำดับความสำคัญกันค่ะ เรียงตามความจำเป็น แล้วก็หาทางทำให้รายจ่ายนี้ลดลง เช่น ลดค่าใช้จ่ายไม่จำเป็น ลดราคาของสินค้าที่เคยซื้อ
ถ้าเรามีวินัยทางการเงินและตั้งเป้าหมายแน่วแน่ที่จะให้ประสบผลสำเร็จทางการเงิน นอกจากหนี้บัตรเครดิตที่เคยกวนใจจะหายไปแล้ว ยังเหลือเงินเก็บและเงินก้อนใหม่ที่งอกเงยเพิ่มขี้นมาอีกด้วย เหมือนได้เริ่มต้นชีวิตทางการเงินใหม่อีกครั้งหนึ่งเลยค่ะ
______________
สนใจวางแผนออมเงิน ลงทุน เกษียณ หรือสร้างมรดกให้ลูกหลาน รีบติดต่อมาดามมาได้เลยค่ะ
เช็คเบี้ยให้ไว ข้อมูลแน่น ต้องมาดามประกันเท่านั้นค่ะ